แถลงนโยบายรัฐบาล- “จุรินทร์” ฟาด 10 นโยบาย “เศรษฐา” ไม่ตรงปก มาตรฐานสวนทางส่วนสูง

เมื่อเวลาประมาณ 11.25 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปรายนโยบายรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน โดยก่อนอภิปรายส่วนที่เป็นนโยบาย ก็ได้ประกาศว่า พรรคประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านของประชาชน และจะทำหน้าที่ในการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มกำลังความสามารถ

นอกจากนี้ ยังแสดงจุดยืนในการทำหน้าที่ 2 ข้อ ข้อแรก พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ค้านทุกเรื่อง แต่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน และรักษาประโยชน์สุงสุดของประเทศและประชาชน

ครม.เศรษฐา แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันแรก 11 ก.ย. 2566

ประกาศแจ้งจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด "เข้าบัญชี 18 ก.ย.2566" แน่นอน

แถลงนโยบายรัฐบาล : "วันชัย" เชื่อ "นายกฯ เศรษฐา" มา ราหูไป ความศิวิไลซ์จะบังเกิด

แถลงนโยบายรัฐบาล : "ศิริกัญญา" ซัด ครม.เศรษฐา ไม่มีจีพีเอส ไร้หนทาง-กรอบเวลา

แถลงนโยบายรัฐบาล : "ก้าวไกล" เปิด 31 รายชื่อ อภิปรายชำแหละนโยบาย ครม.เศรษฐา

ประการที่ 2 ในการทำงานร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น พรรคประชาธิปัตย์จะถือหลักแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง สิ่งที่เป็นจุดยืนสำคัญของพรรค เช่น จะไม่แตะ ม.112 แม้วันหนึ่งจะมีพรรคร่วมฝ่ายค้านใดเสนอเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา พรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่สนับสนุน

นายจุรินทร์บอกว่า ที่ต้องหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดก่อน เพราะว่า เพื่อป้องกันความไม่เข้าใจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นำไปสู่ข้อครหาว่าฝ่ายค้านแตกกัน ซึ่งจะทำให้น้ำหนักในการตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชนขาดน้ำหนักไปโดยไม่จำเป็น

จากนั้นนายจุรินทร์ได้เข้าสู่การอภิปรายนโยบายรัฐบาลเศรษฐา โดยบอกว่า “สำหรับนโยบายที่ท่านนายกฯ ได้แสดงไปสักครู่นี้ ดูละเอียด 2-3 รอบ ดูทุกตัวอักษร ทบทวนไปทบทวนมา มีความเห็นเหมือนสาธารณชนทั่วไป และมีความเห็นเช่นเดียวกับเพื่อนสมาชิกหลายคนที่อภิปรายว่า ‘มาตรฐานของนโยบายรัฐบาลชุดนี้ สวนทางกับความสูงของท่านนายกฯ’ จริง ๆ”

นายจุรินทร์กล่าวว่า นโยบายรัฐบาลเศรษฐานั้นมีการตั้งโจทย์ประเทศที่คลุมเครือ นโยบายเลื่อนลอย ขาดความชัดเจน หากใครอ่านครบจะพบว่า ฟุ่มเฟือยด้วยวาทกรรมวกไปวนมา “เป็นนโยบายน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง”

นายจุรินทร์บอกอีกว่า “ที่สำคัญอีกอันหนึ่ง ที่เชื่อว่าทุกคนเห็นตรงกัน ก็คือนโยบายที่ท่านนายกฯ แถลงเมื่อสักครู่ กับนโยบายตอนหาเสียง เป็นหนังคนละม้วน กลายเป็นนโยบายไม่ตรงปกอย่างที่วิจารณ์กัน”

โดยนายจุรินทร์ได้ยก “10 นโยบายเลื่อนลอย-ไม่ตรงปก” ดังนี้

เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท

เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ตอนหาเสียงอึกทึกครึกโครม สร้างความหวังให้เด็กรุ่นใหม่ที่กำลังจะเรียนจบปริญญาตรี ว่าภายใต้รัฐบาลนี้ ถ้าเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง จะได้เงินเดือน 25,000 บาท

วันนี้กลายเป็นนโยบายนินจา หายไปแบบไร้ร่องรอย โดยอาจคิดว่า นโยบายนี้สัญญาไว้ปี 2570 ยังไงก็อยู่ไม่ถึง จึงไม่จำเป็นต้องเขียนไว้

ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท

นโยบายนินจาตัวที่ 2 ตอนหาเสียง หลายฝ่ายทักท้วงกัน บอกว่าถ้าขึ้นค่าแรงทันที 600 บาท/วันขั้นต่ำ เป็นห่วงเอกชน SME โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่มีคนงาน 5-7 คน จะเจ๊งกันหมด เพราะรับต้นทุนที่สูงขึ้นแบบกะทันหันไม่ไหว แล้วสุดท้ายก็ต้นทุนสูงขึ้น ก็ต้องไปผลักภาระให้กับราคาสินค้าผลิตผล แล้วกรรมก็ไปตกอยู่กับผู้บริโภคคือประชาชนคนไทยทั้งประเทศในที่สุด SME ก็เจ๊ง ผู้บริโภคก็เจ๊ง

หลายฝ่ายทักท้วงแต่ท่านไม่ฟัง เพราะว่าตอนนั้นกำลังหาเสียง กำลังโกยคะแนนกับผู้ใช้แรงงาน แล้วสุดท้ายก็ต้องเปลี่ยน เปลี่ยนมาเป็นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท/วัน ในปี 2570 แต่พอมาดูนโยบายที่แถลงเมื่อครู่ อย่าว่าแต่ปี 2570 ตอนนี้หายวับไปกับตา เขียนไว้ในหน้า 8 แค่บรรทัดเดียวว่า ค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นธรรมคือสิ่งที่จะทำ รวมทั้งสามารถทำให้ผู้ใช้แรงงานเข้าถึงสวัสดิการที่เหมาะสม แค่นั้น

รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

ความหวังของพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เคยขีดเส้นใต้ว่า “ทำทันที” แต่ล่องหนไปอีกหนึ่งนโยบาย รถไฟฟ้าไปจอดหลับอยู่สถานีไหน

นักข่าวตามไปสัมภาษณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านอึกอัก บอกว่า อีก 2 ปีจะทำ ไม่เป็นไรครับ อย่างน้อยท่านก็ผิดคำพูดไปแล้ว 1 คำ แต่อย่าผิดคำพูดคำที่ 2 ต่อไป ท่านต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ คำถามคือ เอาเงินที่ไหนมาทำ จะต้องเอาเงินของประเทศไปชดเชยให้บริษัทเอกชนหรือไม่ อย่างไร

เติมเงินครอบครัวรายได้ต่ำว่า 20,000 บาททุกเดือน

นโยบายลดความเหลื่อมล้ำ ใช้คำว่าเติมเงินให้ทุกครอบครัวที่รายได้ต่ำกว่า 20,000 บาท ทุกเดือน ขีดเส้นใต้เส้นที่คำว่า “ทุกเดือน” วันนี้หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว

ให้นักวิชาการไปดูคร่าว ๆ ครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน มีอยู่เกือบ 20 ล้านครอบครัว ถ้าจะทำนโยบายนี้อย่างที่พูด ท่านต้องเติมเงินเดือน ๆ หนึ่ง หลักแสนล้านบาท ท่านจะเอาเงินมาจากไหน หรือสุดท้ายกลายเป็นนโยบายล่องหน

การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น

การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ตอนหาเสียงบอกว่า จะจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ในจังหวัดที่มีความพร้อม วันนี้ ไม่มีสักคำที่ท่านนายกฯ แถลงเมื่อครู่ แถมถูกแปลงโฉมจากผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้ง ไปเป็นผู้ว่า CEO เปลี่ยนจากกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ไปเป็นรวบอำนาจมาสู่การปกครองส่วนภูมิภาค ย้อนยุคไป 20 ปี

นโยบายช่วยพี่น้องเกษตรกร

ท่านนายกไปพูดที่ขอนแก่น รัฐบาลนี้จะไม่มีนโยบายจำนำข้าว กับจะไม่มีนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ผมกราบเรียนเลยครับ ไม่มีนโยบายจำนำข้าว ดีแล้ว เพราะนั่นคือนโยบายและโครงการที่เป็นต้นเหตุการทุจริตคอร์รัปชัน

นโยบายจำนำข้าวจนวันนี้สร้างภาระหนี้ให้ประเทศ 8.84 แสนล้านบาท จนวันนี้ประเทศไทยยังค้างชำระหนี้โครงารนี้อยู่อีก 2.54 แสนล้านบาท

ที่ท่านนายกฯ บอกว่าจะไม่ทำจำนำข้าว ผมบอกว่าดีแล้ว และผมพร้อมสนับสนุน เพราะจำนำข้าวรัฐบาลนี้ยังต้องมาใช้หนี้ 2.54 แสนล้าน

แต่คำถามคือ ถ้าท่านนายกฯ ไม่ทำจำนำข้าวและไม่ประกันรายได้เกษตรกร นั่นแปลว่าต่อไปนี้ข้าว มัน ยาง ปาล์ม ข้าวโพด ไม่มีเงินส่วนต่างแล้วใช่มั้ย นั่นแปลว่า ถ้าวันหนึ่งราคาพืชผลการเกษตรเหล่านี้เกิดราคาตก อะไรจะกลายเป็นตัวช่วยให้เกษตรกรพอยังชีพอยู่ได้

วันนี้ยังไม่เป็นไร เพราะข้าวความชื้นไม่เกิน 15% ข้าวเปลือกเจ้า ราคาเกวียนละ 12,000-13,000 บาทแล้วครับ ข้าวเปลือกเหนียว 14,800-15,800 บาทข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,000-16,600 บาท มัน 3 บาทกว่า ปาล์ม 5-6 บาท ข้าวโพด 11 บาท ยกเว้นยางที่ราคาตก แต่ถ้าไม่มีประกันรายได้เงินส่วนต่างชาวสวนยางจะทำยังไง

 แถลงนโยบายรัฐบาล- “จุรินทร์” ฟาด 10 นโยบาย “เศรษฐา” ไม่ตรงปก มาตรฐานสวนทางส่วนสูง

ระหว่างนั้นถ้าผลิตผลอื่นที่ผมพูดไปราคาตก ใครจะดูแลเกษตรกรด้วยวิธีไหน ท่านนายกฯ บอกว่าจะพักหนี้เกษตรกรแทน แต่พักหนี้ผมไม่ค้าน แต่พักหนี้คือแค่หยุดต้นกับหยุดดอก หมดเวลาหยุดต้นหยุดดอกเมื่อไหร่ ดอกกับต้นมันก็มารวมกันหลายเป็นหนี้เดินต่อ สุดท้ายพักหนี้แค่ต่อลมหายใจให้เกษตรกรชั่วคราว

ดิจิทัลวอลเล็ต

ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท 5.6 แสนล้านบาท รัฐบาลต้องทำ เพราะเป็นสัญญาที่หาเสียงไว้ แต่มันมีคำถาม 2 ข้อ หนึ่ง ทำยังไง กับสอง เอาเงินมาจากไหน

ทำยังไงคือ ตอนนี้สังคมสับสน เดี๋ยวบอกใช้แอปฯ เป๋าตัง เดี๋ยวบอกใช้บล็อกเชน เดี๋ยวบอกอาจจะมีบริษัทมารับทำ สุดท้ายบอกไม่มีบริษัทรับทำ

และเอาเงินมาจากไหน หนึ่งงบประมาณแผ่นดินรึเปล่า ถ้างบประมาณแผ่นดิน ผมเรียนท่านประธานเลย โครงการนี้ใช้ 5.6 แสนล้านบาท ก่อนพ้นจากรัฐบาลผมถามในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ผอ.สำนักงบประมาณตอบชัด ยังเหลือเงินเท่าไรสำหรับรัฐบาลหน้าที่จะทำนโยบาย ผอ.สำนักงบฯ บอก เหลือ 2 แสนล้านบาท แล้วนี่ตั้ง 5.6 แสนล้านบาท ต่อให้เอาเงินงบประมาณ 2567 ทั้งปีมาทำให้หมด ไม่ต้องทำโครงการอื่นเลยที่ท่านแถลงทั้งเล่มนี้ ก็ไม่พอ แล้วท่านจะเอาเงินมาจากไหนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

คนในรัฐบาลบอก ไม่กู้ ถ้าไม่กู้ก็ไม่เป็นไร รมช.คลังพูดแย้ม ๆ คล้าย ๆ กับว่า จะเอาเงินอนาคตตามมาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังมาใช้ นั่นได้ก็หลักแค่หมื่นล้านหรือสักแสนล้าน แต่ 5.6 แสนล้านบาทท่านจะเอามาจากไหน และถ้าเอาเงินตามมาตรา 28 มาใช้ ท่านต้องตั้งงบใช้หนี้ในอนาคตอีก

นี่คือสิ่งที่ต้องขออนุญาตถาม เพราะ 1-3 วันก่อน คนในรัฐบาลบอกว่า ยังไม่ได้ข้อสรุป แปลว่าอะไร แปลว่าดิจิทัลวิลเล็ต 10,000 บาท กลายเป็นนโยบายไปตายเอาดาบหน้า สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมคิดว่า รัฐบาลต้องรับผิดชอบทำให้สำเร็จ และที่ขอเตือน อย่าให้นโยบายนี้กลายเป็นการทุจริตเชิงนโยบายเกิดขึ้นเด็ดขาด

การแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นโยบายเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อันนี้รัฐบาลเขียนไว้ในนโยบายเร่งด่วน ผมเรียนว่า ผมและพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด พร้อมให้การสนับสนุนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่มีข้อสังเกต เพราะนโยบายรัฐบาลเขียนไว้ในเล่มนี้บอกว่า เพื่อให้คนไทยได้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยยึดรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ตรงนี้ดีครับ ผมสนับสนุน และตรงนี้ ไม่แก้ไข้ในหมวดพระมหากษัตริย์ นี่ก็ดีครับ พวกผมสนับสนุนเต็มร้อย แต่คำว่าไม่แก้ไขในหมวดพระมหากษัตริย์แปลว่าอะไร แปลว่าไม่แก้ไขในหมวด 2 ของรัฐธรรมนูญ

หมวด 2 ว่าด้วยพระมหากษัตริย์มี 19 มาตรา มาตรา 6 ถึงมาตรา 24 ผมเห็นด้วยไม่แก้หมวด 2 แต่มันมีคำถาม แปลว่า หมวด 1 แก้ได้ใช่หรือไม่ เพราะไม่มีนโยบายไม่แก้หมวด 1 ซึ่งมี 5 มาตรา

ตรงนี้มี 2 มาตราที่ต้องพูดถึง คือมาตรา 2 ระบุว่า ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แก้ได้หรือครับ

ที่สำคัญ มาตรา 1 ของรัฐธรรมนูญเขียนว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ แปลว่าตราบเท่าที่มีรัฐธรรมนูญมาตรา 1 และหมวด 1 คงไว้ใครจะมาแบ่งแยกดินแดนไม่ได้ ทำไมนโยบายรัฐบาลไม่กล้าระบุให้ชัดว่าไม่แก้ทั้งหมวด 1 หมวด 2 ท่านเกรงใจใคร เกรงใจพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหน

และอย่าคิด ว่าการแบ่งแยกดินแดนไม่มี ไม่เกิด 2-3 ก่อน มีผู้ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ มีความพยายามในการทำประชามติแบ่งแยกดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นความบกพร่องของคนเขียนนโยบาย เป็นความบกพร่องที่ท่านนายกฯ แถลงไว้เมื่อครู่ แก้ซะครับ ผมให้โอกาส แต่ถ้ายืนยันหมวด 1 แก้ได้ พวกผมต้องรบกับท่านต่อไปในอนาคตเมื่อเรื่องเข้าสภา

การทุจริตคอร์รรัปชัน

เป็นห่วงว่ารัฐบาลเอาจริงแค่ไหน เพราะทั้งเล่ม อยู่ตรงไหน นโยบายป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัน ผมค้น 2 รอบ ไปซุกอยู่ครึ่งบรรทัด ซุกอยู่ในนโยบายการมีส่วนร่วมของประชาชน บอกว่า การป้องกันและขจัดการทุจริตที่ประชาชนมีส่วนร่วม แค่นี้

รัฐบาลต้องตระหนักว่าจะไม่ทำเหมือนอดีต เพื่อรักษาประชาธิปไตยและรักษาประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน เพราะรัฐบาลท่านในอดีตเคยถูกยึดอำนาจมา 2 ครั้ง เพราะเหตุแห่งการทุจริต และการออกกฎหมายล้างการทุจริตจนคนออกมาเป้นล้าน และในที่สุดนำมาสู่การยึดอำนาจ ต้องไม่ทำให้ประวัติศาตร์กลับไปซ้ำรอยเดิมอีก

การฟื้นฟูหลักนิติธรรม

สุดท้าย นโยบายที่ท่านนายกฯ ประกาศชัดเจน ว่าจะฟื้นฟูหลักนิตะรรมที่มีความเข้มแข็ง รัฐบาลข้ามขั้วแม้จะเปลี่ยนชื่อเป็นรัฐบาลสลายขั้ว สลายความขัดแย้งไม่ได้หรอก มีแต่หลักนิติธรรมที่เข้มแข็งเท่านั้นที่จะทำให้ประเทศของเรามีความหวัง

หลักนิติธรรมคืออะไร หลักนิติธรรมคือ ทุกคนเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมายเดียวกัน ไม่ว่าคนจน คนรวย คนมีอำนาจ คนไม่มีอำนาจ ไม่เว้นแม้แต่นักโทษ นักโทษรวย นักโทษจน นักโทษเคยมีอำนาจ นักโทษไม่เคยมีอำนาจ นักโทษทุกคนก็ย่อมเท่าเทียมกัน และย่อมต้องได้รับการปฏิบัติจากผู้บังคับใช้กฏหมายโดยเสมอกัน

นโยบายนี้คือจุดเริ่มต้นของความหวัง นโยบายนี้จะศักดิ์สิทธิ์เป็นจริงได้ อยู่ที่ตัวท่านนายกฯ และรัฐบาล การพระราชทานอภัยโทษที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1 กันนายน 2566 เล่ม 140 ตอนที่ 40ข ระบุชัด นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษต้องสำนึก และรัฐบาลก็ต้องสำนึก ว่าผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษ หนึ่ง ยังเป็นผู้มีความผิด ประการที่สอง หากมีคำพิพากษาศาลสถิตยุติธรรมในคดีใดเกิดขึ้นอีก ว่ามีการกระทำความผิด ก็ยังจะต้องรับโทษใหม่ในอนาคต

จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องตระหนัก ว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายโดยหลักนิติธรรม เท่าเทียม เสมอหน้า เช่นเดียวกับคนไทยทุกคนต่อไป ถ้ารัฐบาลก่อนหน้าทำไม่ถูก ท่านก็ทำซะให้ถูก อย่าปล่อยเลยตามเลย อย่าสร้างมาตรฐานใหม่ เหยียบย่ำหัวใจคนรักความยุติธรรม และรักความซื่อสัตย์สุจริต ให้ต้องหมดกำลังใจ

ผมเห็นว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสสำคัญของรัฐบาลที่จะทำให้วลีที่เราพูดติดปากวลีหนึ่งว่า คุกมีไว้แค่ขังคนจนกับคนไม่มีอำนาจ มลายหายไปได้ โดยนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน

นายจุรินทร์เน้นย้ำว่า พรรคการเมืองหาเสียงได้แต่ต้องมีความรับผิดชอบ อย่าให้เหมือนตอนไล่หนูตีงูเห่า สุดท้ายทั้งหนูทั้งงูเห่ามาอยู่ด้วยกัน แล้วก็กลายเป็นแค่เทคนิคการหาเสียง หรือแค่นโยบายการละคร สิ่งนี้ประชาชนไม่ต้องการเห็น ต้องการยกระดับมาตรฐานการหาเสียงของพรรคการเมืองให้สูงกว่านี้ พูดแล้วต้องทำ อย่างที่ประชาชนคาดหวัง

“ผมขอให้นายกรัฐมนตรีรักษาคำพูด ยึดมั่นในสิ่งที่ได้แถลงผูกพันต่อรัฐสภาไป และขอให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลประสบความสำเร็จในการเร่งฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง ให้เกิดขึ้นให้ได้โดยเร็วนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป” นายจุรินทร์กล่าว

ส่องสีใหม่ "iPhone 15" และ "iPhone 15 Pro" ก่อนเปิดตัวกันยายนนี้

ประกาศรายชื่อวอลเลย์บอลหญิงไทย "นุศรา" นำทัพชุดลุยศึกคัดโอลิมปิก 2024